Audemars Piguet รับซื้อนาฬิกา แบรนด์เนม ของแท้ มือสอง

Audemars Piguet

Audemars Piguet ด้วยเหตุว่าการบรรลุจุดประสงค์ของระบบโครโนกราฟที่พวกเขาประดิษฐ์ขึ้นรวมทั้งการสร้างนาฬิกาที่มีความบางพิเศษ (ซึ่งใช้กลไกขนาด 9 ligne calibre 2003) แล้วก็ในระหว่างทศวรรษ 1950 และจากนั้นก็ 1960 ยอดขายของบริษัทก็กลับพุ่งขึ้นอีกครั้ง ต่อมาในปี 1967 ได้ร่วมมือกับเจเกอร์ เลอคูลทร์ ( Jaeger LeCoultre) สร้างสถิติใหม่ด้วยการประดิษฐ์กลไกอัตโนมัติที่บางที่สุดเพียง 2.45 มิลลิเมตร ซึ่งมีโรเตอร์กลางทำด้วยทองคำ 21K แล้วก็เพียงแค่ 3 ปีต่อมมาเป็นในปี 1970

ช่างทำนาฬิกาของ ก็ได้สร้างกลไก บางที่สุดในโลกครึ้มเพียง 3.05 มิลลิเมตรที่สามารถรวมเอาฟังก์ชั่นแสดงวันที่รวมถึงโรเตอร์กลางซึ่งทำมาจากทองมาไว้ด้วยกัน และปีที่สำคัญมากที่ประวัติศาสตร์ ก็คือปี 1972 ที่บริษัทได้สร้างนาฬิการุ่นยอดนิยมและยังมีชื่อโดยตลอดจวบจนเวลานี้โน่นเป็น นาฬิการุ่น ” รอยัล โอ็ก” (Royal Oak) ซึ่งได้รับการออกแบบโดยผู้เป็นตำนานที่ช่างซ่อมนาฬิกา เฌรัลด์ ฌองตา กับตัวบ้านทรง หรือที่เรียกกันอย่างสั้นๆว่า AP เป็นแบรนด์นาฬิกาที่ได้รับความนิยมเป็นลำดับต้นๆของโลก อีกทั้งยังเป็นเยี่ยมในแบรนด์นาฬิการะดับ Holy Trinity ที่มีประวัติศาสตร์สำหรับการผลิตนาฬิกามาอย่างเป็นเวลานานกว่า 146 ปี ด้วยความเชี่ยวชาญสำหรับในการประดิษฐ์นาฬิกาที่มีความซับซ้อนอย่าง Grand Complication ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความวิจิตรและความสวยจากความรู้ความเข้าใจช่างคิดนาฬิกาชั้นสูง รวมทั้งมีคอลเลกชันอันสะดุดตาอย่าง Royal Oak

ทั่วโลกให้ความสนใจแล้วก็เป็นที่เรียกร้องของนักสะสมมหาศาล Audemars Piguet

  • ต่อแต่นี้ไปมาดูกันว่าทางของ AP มีความเป็นมาอย่างไร และจากนั้นก็ทำไมถึงครอบครองใจคนทั่วโลกได้มากขนาดนี้ AP แบรนด์นาฬิกาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างนาน เปิดตัวนาฬิกามาแล้วเป็นจำนวนมากเยอะมากรุ่น โดยเฉพาะนาฬิกา Royal Oak ที่เป็น Luxury Sport Watch หรือ นาฬิกาสปอร์ตหรู ยอดฮิตเป็นอันดับต้นๆของโลกซึ่งวันนี้ Auction House จะพาทุกคนมาดูคอลเลกชันนาฬิกาเวลานี้ของแบรนด์ AP แล้วก็มาดูความหมายอันซับซ้อนของเลขอ้างอิง หรือที่เรียกกันว่า เลข Reference เพื่อทุกคนสามารถถอดความของปริมาณและอักษรได้
  • สำหรับแบรนด์ ในช่วงเวลานี้ จะแบ่งนาฬิกาทั้งหมดออกเป็น 4 คอลเลกชันหลัก นั้นก็คือ Royal Oak, Royal Oak Offshore, Royal Oak Concept และก็ Code 11.59ประวัติศาสตร์เริ่มต้นของ เริ่มตั้งแต่ในปี 1875 ด้วยความร่วมแรงร่วมใจของช่างผู้ชำนาญด้านการซ่อมนาฬิกาวัย 23 ปี จูลส์-หฝ่าส์ โอเดอะมาร์ส (Jules-Louis Audemars) รวมถึงหุ้นส่วนคนสำคัญ เอ็ดวาร์ด -ออกัสต์ ปิเกต์ (Edward August Piguet) ที่พึ่งพิงจะอายุแค่เพียง 21 ปี ถึงแม้เมื่อความต้องการของทั้งคู่นั้นสอดคล้องเป็นไปในลักษณะเดียวกัน ทำให้หลังจากเจอะกันได้เพียงแต่ไม่นาน

ทั้งคู่ในฐานะช่างซ่อมนาฬิกามีชื่อในระดับดินแดนที่ วัลเลย์ เดอ ฌูช์ ก็ตกลงปลงใจร่วมกันตั้งบริษัทที่แรกๆนั้นโด่งดังกันในชื่อ et Cie โดยมี Jules – Louis Audemars เป็นผู้ดูแลหัวข้อการผลิตและก็ทางด้านเทคนิค ส่วน Edward August Piguet นั้นดูแลงานด้านแนวทางการขายและการตลาดที่หมั่นออกพบลูกค้าผ่านหลายเมืองสำคัญแล้วก็อีกหลายทวีปอย่างมั่นคงถาวรแม้ว่าจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จนักในตอนแรกๆซึ่งโดยความเป็นจริงแล้ว บริษัทยังไม่ได้เขียนเครื่องหมายกระทั่งในปี 1882 ด้วย รวมถึงบริษัทก็ยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการจวบจนถึงปี 1889 อย่างไรก็ดี et Cie กลายบริษัทใหญ่ที่มีจำนวนลูกจ้างสูงสุดเป็นชั้น 3 ของอุตสาหกรรมผู้ผลิตนาฬิกาในเมือง Vaud ซึ่งเสร็จจากความมุ่งมั่นของบุคคลทั้งสองที่มีจุดหมายปลายทางสำหรับในการผลิตนาฬิกาคุณภาพสูงมีความสลับซับซ้อนแล้วก็มีความเที่ยงธรรมสูงสุดจนถึงบรรลุผลในที่สุด

ตอนหลังเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้ไม่นานทั้งคู่ก็เลยได้ตั้งสาขาอยู่ในกรุงเจนีวาและจากนั้นก็ตกลงปลงใจผลิตส่วนประกอบและประกอบเรือนนาฬิกา ทั้งหมดในโรงงานของตน ซึ่งทำให้บริษัทสามารถควบคุมความสามารถของนาฬิกาได้อย่างเคร่งครัด และก็มั่นใจได้ว่ามีเฉพาะนาฬิกาความสามารถสูงได้มาแบรนด์ฐานเท่านั้นที่จะสามารถส่งออกจากโรงงานของพวกเขาได้ ทำให้ไม่น่าคลางแคลงใจเลยว่าในระหว่างตอนปี 1894-1899 มีนาฬิกาเพียง 1,208 เรือนเท่านั้นเองที่ได้รับการผลิต ซึ่งในจำนวนนี้นิดหน่อยนั้นเป็นนาฬิกาที่มีความสลับซับซ้อนและจากนั้นก็ทันสมัยสูงสุด ซึ่งก็แล้วก็นาฬิกาที่ตำนานรุ่น ‘กรองด์ คอมพลิเคชั่น ‘(Grande Complication) ที่ยังคงมีการผลิตโดยตลอดจนถึงทุกวันนี้ เนื่องจากเสียงสรรเสริญแล้วก็การได้รับความมั่นใจจากบุคคลทั้งโลก เพราะนอกจากบอกเวลาเหมือนเดิมแล้ว Grande Complication รุ่นนี้ ยังมีระบบระเบียบระฆังบอกนาที บอกปฏิทินตลอดชีพ แล้วก็ระบบโครโนกราฟ แทรกสอดมาให้อย่างสมบูรณ์ด้วย

 

 

 

ราวปี 1914 ได้ตั้งโครงการปรับแต่งนาฬิกาให้มีความสลับซับซ้อนทำให้จำเป็นจะต้องใช้เวลาถึง 6 ปี สำหรับการผลิตโดย Audemars Piguet ตลอดก่อนจะนาฬิกาจะถูกส่งไปยังผู้นำเข้า Guignard & Golay ในกรุงลอนดอน ซึ่งนาฬิกาที่กล่าวถึงนี้ก็คือนาฬิกาพกที่มีสองหน้าปัดรวมทั้งกลไกทูร์บิญองบประมาณอกนาทีและมีอีกทั้งฟังก์ชั่นตีระฆังบอกนาที ระบบจับเวลาโครโนกราฟ ระบบปฏิทินตลอดชีวิต เวลาข้างขึ้น – ข้างแรมของพระจันทร์ และก็บอกพลังสำรองของลานส่วนบน อีกหน้าปัดหนึ่งนั้นแสดงเวลาเสริมเติมแบบ 24 ชั่วโมง ที่ชี้เวลาด้วยเข็ม 2 เข็ม พร้อมระบบพิเศษที่ทำให้สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงของฟ้าบนกรุงลอนดอนอีกทั้งช่วงเวลากลางวันแล้วหลังจากนั้นก็ช่วงเวลาค่ำคืนผ่านช่องเปิดรูปวงรีบนหน้าปัดด้านหลังซึ่งบนฟ้านั้นมีดาวจำนวน 315 ดวงสลักไว้บนพื้นหน้าปัดชุบทองและลงยาด้วยสีฟ้า ทั้งสลักชื่อของกลุ่มดาวเอาไว้อย่างชัดเจน การสร้างเรื่องแปลกใหม่ที่ไม่มีผู้ใดเคยคาดหมายว่าจะเป็นไปได้นี้ทำให้ชื่อของ เป็นที่รู้จักแล้วก็ถูกโจษขานกันมากยิ่งขึ้น

ถึงแม้ว่าตามทางของตำนานก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบดอกกุหลาบเสมอ

เมื่อความเสร็จที่มีโดยตลอดของ ชะงักงันในปี 1929 ที่บริษัทขายนาฬิกาได้เพียงแค่ 737 เรือนเท่านั้น ซึ่งต่างจากยอดขายในปี 1920 ที่มีอยู่ราว 2,000 เรือนอย่างสิ้นเชิง เพราะว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับทางด้านการตลาดรวมทั้งวิกฤติทางเศรษฐกิจที่ทำให้ลูกค้าผู้มีกำลังซื้อนาฬิกาแพงๆลดลง ตอนท้าย จำเป็นที่จะต้องปลดเจ้าหน้าที่รวมทั้งช่างซ่อมนาฬิกาออกโดยตลอด จวบจนกระทั่งในปี 1932 มีนาฬิกาก็แค่ 2 เรือนเท่านั้นที่บริษัทผลิตออกมาบางทีอาจปฏิเสธไม่ได้ว่าโอเดอมาร์ ปิเกต์ () เป็นแบรนด์ชั้นหนึ่งของวงการ ‘เรือนเวลาชั้นสูง’ ที่บรรดานักสะสมนาฬิกาต่างหมายมั่นจอง ด้วยประวัติศาสตร์อันนานเกือบจะ 150 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งแบรนด์ในปี 1875 ประกอบกับสมรรถนะชั้นยอด

ในรูปลักษณ์อันสะดุดตา ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเรือนเวลารุ่นใดก็ตามต่างก็มีเอกลักษณ์ที่เป็นเสน่ห์ส่วนตัวพร้อมประดิษฐ์ความคูลคู่ปรับหรูหราหรูหราให้กับผู้ใส่ไว้ในทุกๆไลฟ์สไตล์ นำมาซึ่งการทำให้โอเดอมาร์ ปิเกต์ถือครองความชื่นชมในแวดวงผู้เผลอในกลไกเวลาตลอดมา อีกหนึ่งแบรนด์นาฬิกาหรู ผู้เป็นพวก Holy Trinity of Haute Horlogerie ตั้งแต่หนแรกเริ่มดีไซน์นาฬิกาพกพา ตำแหน่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ ด้วยเหตุว่านาฬิกาอันแสนล้ำยุคจาก Vallée Joux ได้พิสูจน์ความเหนือชั้นทางเทคนิคอย่างสม่ำเสมอ ทั้งยังมากด้วยเสน่ห์จากการออกแบบที่สะดุดตา ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเหตุผลที่เรารัก นั้นมีเยอะๆ แต่ในวันนี้เรามาพร้อมกับอีก 10 เหตุผลทำให้คุณจำต้องตกหลุมรัก อย่างปฏิเสธไม่ได้ Audemars Piguet

การผลิตที่ไม่ขึ้นตรงกับผู้ใดกันแน่ตั้งแต่การก่อตั้งในปี 1875 ตราบจนกระทั่งตอนนี้ เป็นเยี่ยมในบริษัทได้รับการดูแลภายใต้ครอบครัวผู้ก่อตั้งโดยตลอด ซึ่งสิ่งนี้จะไม่มีทางเป็นไปได้แปรไปอย่างแน่แท้ในอนาคต เพราะเหตุว่า อยากได้แสดงถึงจิตวิญญาณที่อิสระ ซึ่งพูดได้ว่าหายากขึ้นเรื่อยๆในช่วงปัจจุบันที่หลายๆแบรนด์ต่างก็จำเป็นจะต้องพึ่งบริษัทยักษ์ใหญ่สำหรับการดูแลหรือถูกแปลงผ่านมือจากผู้ผลิตคนแรกมาเป็นคนใหม่ ซึ่ง Olivier Audemars รองประธานของ เคยกล่าวไว้ว่า “ เป็นมากกว่าบริษัท บริษัทยังคงเป็นอิสระจากมือคนอื่นและยังคงเป็นมรดกของครอบครัวโดยตลอด ซึ่งเรารับผิดชอบในการถ่ายทอดความรู้รวมทั้งกระบวนการแก่คนสมัยใหม่ไว้ภายในที่นี้ ใน Le Brassus ที่ที่ซึ่งทุกอย่างเริ่มในปี 1875”ถือได้ว่าคำกล่าวที่แสดงจุดยืนอย่างแจ่มแจ้งจากตำแหน่งของตนว่า นั้นถือมั่นแล้วก็ให้ความเคารพนับถือต่อตัวเองยังไง รวมทั้งเมื่อใคร่ครวญจากบทสรุปที่ว่า เป็นผู้ผลิตนาฬิกาอันเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่เรียกร้องเยอะที่สุดในยุคของเรา ทั้งเป็นพวกที่ไม่ผิดกฎหมายของ Holy Trinity ยิ่งตอกย้ำซ้ำเติมว่าสิ่งนี้จะไม่มีทางเป็นไปได้แปรไปได้อย่างสะดวกสบายGérald Genta และ Royal OakGérald Genta ผู้ดังและก็เป็นตำนานด้วยการโด่งดังจากผลงานการออกแบบที่สะอาดตาและการแปลความการออกแบบที่ล้ำสมัยกว่าคนใดกัน การสร้างสรรค์อันไม่มีที่ว่ากล่าวของเขาได้ดึงดูดใจผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกาทั่วโลก

ทั้งช่วยเหลือให้หลายแบรนด์ไม่ต้องล้มเลิกกิจการ ซึ่ง Royal Oak Collection

Audemars Piguet อันเลื่องลือมีต้นกำเนิดโดยตรงจากปลายปากกาของ Gérald Genta ขณะที่นาฬิกาเลื่องลืออีกเรือนหนึ่งของเขาอย่าง Patek Philippe Nautilus นั้นชวนให้นึกถึงช่องหน้าต่างเรือ สลับกันการออกแบบ Royal Oak นั้นดันมีความเหมือนกันกับหมวกมุดน้ำจากยุค 1920 ถึง 1930ลายเซ็นของ Gérald Genta นั้นปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัดในนาฬิกาทั้งสองรุ่น ไม่เพียงแค่เนื่องจากตัวบ้านและสายนาฬิกาที่ดูกลมกลืนเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกัน แม้กระนั้นยังเป็นด้วยเหตุว่า Genta ให้ความสำคัญกับการออกแบบของทั้งสองรุ่นด้วยธีมการเดินเรือ เขาสามารถผสมลักษณะของธรรมชาติของการเดินเรือกับประวัติความเป็นมาและที่ไปที่มาของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี ซึ่งท่านจะเห็นความพิเศษนี้ได้ก็เมื่อมองหามันอย่างตั้งใจเท่านั้นเอง วันนี้ Royal Oak Series เป็นเยี่ยมในนาฬิกาข้อมือที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกแล้วก็สมควรที่จะได้รับรางวัลในลิสต์เหตุผลที่ทำให้เราหลงเสน่ห์

เป็นชื่อของคอลเล็กชั่นใหม่ที่โอเดอมาร์ ปิเกต์ แต่งตั้งขึ้น เรียกว่ายอดเลิศวินาทีที่กลับโฉมประวัติศาสตร์

ของแบรนด์พร้อมฉีกทุกกฎข้อปฏิบัติเพื่อนำเสนอความโมเดิร์นล้ำสมัย แม้กระนั้นยังคงจิตวิญญาณของแบรนด์เอาไว้ได้อย่างเหมาะควร และแม้คอลเล็กชั่นนี้จะถูกเปิดตัวไปแล้วเมื่อต้นปี 2019 หากความสะดุดตาด้านการออกแบบอย่างพอดิบพอดีเป็นสิ่งที่เราต้องการจะเสนอมากยิ่งขึ้นล่าวกันอีกรอบ ด้วยดีไซน์ที่ดีไซน์มาให้สวมได้ทั้งยังหญิงและชาย และก็หน้าปัดทรงกลมที่รับกับข้อมือได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่เชื่องช้าหรือเล็กจิ๋วหากแม้อยู่ในรูปร่างที่พอดิบพอดี และก็ความประณีตบรรจงสำหรับการออกแบบส่วนโค้งเว้ากลับไม่ได้นำไปสู่ความจำเจหรือซ้ำจากจำเจแม้แต่น้อย Audemars Piguet

รับซื้อนาฬิกา Audemars Piguet

ประวัติศาสตร์ของแบรนด์ ได้เริ่มขึ้นในปี คริสต์ศักราช 1875 เมื่อ Jules Louis Audemars (จูลส์-หฝ่าส์ โอเดอะมาร์ส) และก็ Edward August Piguet (เอ็ดวาร์ด -ออกัสต์ ปิเกต์) เพศชายช่างผู้ชำนาญด้านการซ่อมนาฬิกามากมายก่ายกองความรู้ความเข้าใจทั้งสองคน ที่มีความตั้งใจอันแรงกล้าต้องการจะประดิษฐ์นาฬิกาที่มีความซับซ้อนความสามารถสูง ทั้งคู่ได้ตกลงปลงใจร่วมกันตั้งโรงงานขึ้นในหมู่บ้าน Le Brassusในเมือง Vallée de Joux ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และตั้งบริษัทขึ้นในปี คริสต์ศักราช 1881 ในชื่อ & Cieคอลเลกชัน Royal Oak เปิดตัวหนแรกในปี 1972 ฉีกกรอบการดีไซน์นาฬิกาแบบเดิมๆไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยเหตุว่านาฬิการุ่นนี้เป็นสไตล์ Sport Luxury แบบที่ AP ไม่เคยทำมาก่อน สะดุดตาด้วยตัวบ้านทรงแปดเหลี่ยม หน้าปัดสีน้ำเงินลายตาราง Petite Tapisserie พร้อมตัวนอตทรงหกเหลี่ยมทำจากทองประดับอยู่ทุกมุมบนกรอบหน้าปัดแม้ว่าจะเสือกสน แต่ไม่เคยคิดยอมยกธงขาว ในที่สุดบริษัทก็สามารถกลับฟื้นขึ้นด้านหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 https://funnylla.net/