ดูหนัง ออนไลน์ Mrs. Chatterjee vs. Norway (2023) เต็มเรื่อง การสู้รบของแม่ จากความเป็นจริงของม่าม้าแขกที่เป็นผู้ย้ายที่อยู่กับการต่อสู้สุดถึงใจถึงอารมณ์ เพื่อได้สิทธิ์สำหรับเพื่อการอุปการะลูก เมื่อทางการประเทศนอร์เวย์พรากลูกไปจากคุณ เทพิกา แชทคุณจี (รานี มุเคอร์จี) แม่บ้านคนแขกที่ติดตามอนิรุท แชทคุณนี (อเนียบัน พัทธาชารยา) ผู้เป็นสามีไปตั้งหลักแหล่งที่ประเทศนอร์เวย์กระทั่งมีลูกสองคนโดยเฉพาะคนเล็กอายุยงเพียงแค่ห้าเดือน
ด้วยความต่างด้านวัฒนธรรมที่ไม่ผ่านสายตาผู้ประเมินจากหน่วยราชการของประเทศนอร์เวย์ที่มีข้อบัญญัติปกป้องเด็กที่อดทนก็ทำให้สองสามีภรรยาถูกพรากลูกทั้งสองให้ไปอยู่สำหรับในการดูแลของเมือง แล้วด้วยหัวใจที่แหลกสลายของเทพิกาผู้เป็นแม่คุณก็เลยต่อสู้ทุกหนทางตามกรรมวิธีซึ่งก็เปรียบเสมือนทุกๆอย่างจะให้โอกาส แม้กระนั้นจนแล้วจนรอดคุณก็ถูกกีดกันด้วยข้อกล่าวหามากเพิ่มขึ้นตราบจนกระทั่งไม่สามารถพาลูกกลับมาได้ถึงแม้เทพิกาไม่เคยยอมยกธงขาว
เรื่องย่อ ดูหนัง ออนไลน์ Mrs. Chatterjee vs. Norway (2023) เต็มเรื่อง
จนกระทั่งหมดปัญญาคุณก็เลยลักพาตัวลูกทั้งสองมานะบากบั่นเดินทางผ่านพรหมดินแดนประเทศนอร์เวย์เพื่อหนีออกนอกประเทศถึงแม้ก็ไม่พ้นจนกระทั่งทำให้เหตุแย่ลง ถึงแม้แล้วเหมือนกับสวรรค์ให้โอกาสเมื่อมีนักการเมืองอินเดียมาเลิศประเทศนอร์เวย์คุณก็เลยเข้าไปร้องเรียนรวมทั้งทางรัฐบาลอินเดียก็เลยเข้ามาแทรกแซง ถ้าว่าด้วยความฉ้อโกงทางขั้นตอนและสามีที่ไม่ยืนเดินคู่คุณก็พบความท้อแท้อีกครั้งและหลังจากนั้นก็เทพิกาจะได้ลูกคืนมาอย่างไร
แรงบันดาลใจจากความจริงที่ถูกเล่าอย่างเหมือนจริงอึดอัดอัตคัดกดดันตื่นเต้นโดยไม่บังคับ ถ้าหากไม่พูดว่านี่เกิดเรื่องที่ได้รับแรงกระตุ้นมาจากข้อสรุปดาราอ้างอิงจากบุคคลที่มีตัวตนจริงๆยืนยันว่าผู้เขียนจะบอกว่านี่เป็นงานตามสูตร แต่ว่ากลุ่มคำที่ว่าโลกนี้เป็นละครก็ยังคงเป็นจริงเสมอเมื่อข้อเท็จจริงประเด็นนี้เป็นสูตรของงานคอร์ทรูมดราม่าขึ้นโรงขึ้นศาลดีๆนี่เอง แล้วเมื่อมาเป็นบทหนังก็ใช้ท่าทางความเป็นหนังใส่เข้าไปด้วยการดันให้ฝ่ายตรงข้ามเป็นมิจฉาชีพที่น่าเกลียดน่ากลัวแม้ว่าทุกๆสิ่งทุกๆอย่างจะเป็นไปตามข้อกำหนดและก็อาจไม่มีผู้ใดผิดหรือถูก
เมื่อแยกทางอารมณ์ชัดผู้ชมก็เลยรู้สึกอึดอัดบังคับขาดเจียนคลั่งไม่มีความแตกต่างจากที่เทพิกา แชทคุณจีรู้สึก และผู้เขียนแน่ใจว่าถ้าหากคนไหนกันที่เป็นแม่คนแล้วมาได้ดูเรื่องอย่างนี้ที่เกิดความจริงจะยิ่งขาดหนักด้วยความที่ขนาดผู้แต่งเป็นเพศผู้เป็นพ่อไม่ใช่แม่ที่ตั้งท้องแล้วหลังจากนั้นก็คลอดออกมายังเกือบหัวใจสลายตาม แต่ว่าที่น่าทึ่งเป็นหนังไม่พยายามบังคับหรือบีบน้ำตาถึงแม้ว่าถ้าจะบีบบางทีอาจไหลมาเป็นสาย อาจเพราะเล่าจากเรื่องจริงเลยปล่อยไปตามอารมณ์ความรู้สึกได้อย่างสมจริงสมจังแม้กระนั้นคนใดกันเล่าจะทรหดอดทนไว้ได้
สตรีผู้หาญสู้กับประเทศเพื่อสิทธิ์การชุบเลี้ยงลูกที่ไม่ควรต้องมาต่อสู้ ดูหนัง ออนไลน์ Mrs. Chatterjee vs. Norway (2023) เต็มเรื่อง บางครั้งเรื่องของกฎข้อบังคับกับจารีตก็ใช่ว่าจะไปด้วยกันได้นำมาซึ่งการก่อให้เกิดเส้นแบ่งทางนิติธรรมรวมทั้งมโนธรรมอยู่ร่ำไป แน่นอนครั้งใดก็ตามใครสักคนได้รับความไม่ชอบธรรมจากกฎเกณฑ์ถูกใจมาจากคนที่เอาข้อกำหนดไปใช้ที่มีได้สองอย่างหนึ่งเป็นตึงตามข้อกำหนดข้อบังคับอย่างมากรวมทั้งสองใช้ช่องว่างด้านกฎหมายมาแสวงผลตอบแทน แต่เรื่องอย่างนี้เรื่องของสิทธิ์สำหรับเพื่อการเลี้ยงลูกจากแม่ที่คลอดลูกมาเองแบบนี้ไม่ควรเกิดเหตุที่จะจำเป็นต้องต่อสู้กันถ้ามีหัวดวงใจและก็เปิดใจ
ส่วนสำคัญ Mrs. Chatterjee vs. Norway (2023) ถึงหนังจะไม่ระบุชัดเรื่องผลตอบแทนและความต้มตุ๋นในหน่วยงานของเมืองที่ใช้ข้อปฏิบัติหากแม้เมื่อหัวใจของแม่ถูกย่ำยีทำร้ายอย่าว่าแต่ว่าประเทศหนึ่งต่อให้จำเป็นต้องสู้กับทั่วทั้งโลกแม่ก็ทำเป็น หนังก็เลยส่อให้เห็นหัวใจของแม่ที่ยิ่งใหญ่ที่ไม่ยินยอมหยุดแม้ว่าจะแพ้มาทุกหนถูกหมายหน้าว่าเป็นบ้าที่การต่อสู้เพื่อลูกเป็นเรื่องที่ควรปฏิบัติ แม้ว่าจะชี้ให้เห็นด้วยเหมือนกันว่าไม่ใช่แม่ทุกคนที่จะเป็นได้อย่างนี้ถึงแม้ก็ชี้ให้เห็นว่าครั้งคราวการต่อสู้แบบคนวิกลจริตก็เนื่องจากว่าลูกเป็นโลกทั้งใบของแม่ หนังอาจบอกอย่างนี้แบบเจตนาแต่ว่าผู้ใดกันแน่จะสนเมื่อทุกคนทุ่มเทใจให้เทพิกาหมดแล้ว
มีผัวผิดคิดจนกระทั่งตัวตาย หัวใจสำคัญที่ทำให้หนังเหิมใจผู้ชมไปหมดเกลี้ยงเป็นความเห็นใจและเห็นใจเทพิกาที่อาจได้กลิ่นความมุ่งมั่นยัดเข้ามาออกนอกหน้าอยู่บ้างแต่ไม่ได้ชัดจนกระทั่งน่ารังเกียจ แล้วก็ด้วยความที่ประเด็นนี้เกิดเรื่องที่เกิดขึ้นจริงชะตากรรมของผู้หญิงหนึ่งผู้ทำทุกสิ่งทุกอย่างถูกตามขนบของสตรีอินเดียแม้กระนั้นต้องมาพบโชคชะตาที่ร้ายกาจแบบนี้ทำให้แม้ว่าจะมองดูเจตนาแต่ก็ไม่มีความจำเป็น ซึ่งเมื่อจำเป็นต้องพบกับเรื่องที่เกินรับไหวคนที่ควรอยู่ใกล้กันคอยปลอบโยนรวมทั้งต่อสู้ไปด้วยกันเป็นสามีที่พาภรรยามาตั้งรกรากในต่างแดนในสังคมที่ไม่คุ้นเคยและก็แตกต่างกันทางวิถีชีวิตวัฒนธรรม
ข้อสรุป การรบของแม่ แม้กระนั้นเทพิกากลับต้องเผชิญกับการต่อสู้อย่างสันโดษเพราะสามี ไม่กล้าที่จะสู้ต่อสู้ไปกับคุณแถมยังยอมแล้วก็ยังไม่พอยังทำร้ายจิตใจในส่วนท้ายที่เป็นการทำที่ไม่น่าให้อภัย ซึ่งเรื่องแบบงี้ถูกถ่ายทอดออกมาจากหนังอินเดียที่เป็นประเทศที่สังคมนิยมชายยิ่งใหญ่หนังก็เลยบอกกับผู้หญิงแปลงๆว่าการทำทั้งหมดทุกอย่างตามครรลองอาจไม่พอ แต่บางโอกาสการลอกเลียนหัวใจของตนอาจพบสิ่งที่ดียิ่งกว่าเหมือนเทพิกาที่ไม่ควรเจอเรื่องแบบนี้ขอเพียงแต่สามีรักรวมทั้งสู้ไปกับคุณ
รีวิวหนัง “Cassandro ติดอยู่สซานโดร
รวมทั้งนี่เป็นตำนานของนักมวยปลุกปล้ำที่โลกได้กระทำจารึกเอาไว้ กับการต่อสู้ที่จะต้องแลกเปลี่ยนมาด้วยน้ำตาแล้วก็เกียรติจำนวนมาก เพื่อได้มาสู่การยินยอมรับโดยปกติ กับชีวิตของนักสู้ชาวรักร่วมเพศใน “Cassandro ติดอยู่สซานโดร” ที่เป็นการเปิดเผยเรื่องราวของเขาที่ถูกกล่าวขวัญต่อกันมากมายว่า 40 ปี จากทางจุดเริ่มสู่การความชัยที่อยู่เหนือหัวดวงใจตนเอง เรื่องราวชีวิตของ ซาอุล อาร์เมนดาริซ นักสู้บนสังเวียนมวยปล้ำจากชายแดนอเมริกา-ประเทศเม็กซิโก ที่มีสมญานามในแวดวงว่า ค้างสซานโดร ที่ตั้งชื่อตามจากนางเอกละครน้ำเน่า เปลี่ยนมาเป็นนักสู้สายเอ็กโซตำหนิโกชาวรักร่วมเพศที่ไปถึงเป้าหมายและก็โด่งดังระดับประเทศในตอนสมัยปี 1980s ท่ามกลางแสงสีและก็ความสับสนในห้วงสมัยที่เต็มไปด้วยบททดลอง
Cassandro เป็นหนังที่่ค่อนข้างจะสร้างผลงานออกมาได้สะดุดตาจากเทศกาลหนังซันแดนซ์ เมื่อตอนต้นปีที่ล่วงเลยไป จากเสียงตอบรับของหนังที่ได้ออกมา นี่เป็นผลงานการดูแลและก็ร่วมเขียนบทของ “โรเจอร์ รอคอยส วิลเลียมส์” นักสร้างภาพยนตร์ที่กำลังเป็นด้ามจับตามอง ภายหลังที่เคยแจ้งเกิดขึ้นมาจากหนังสารคดี Life, Animated เมื่อหลายปีที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ ในด้านงานควบคุมนับว่าเขาทำออกมาก้าวหน้าไม่น้อย ถ่ายทอดวิสัยทัศน์ออกมาได้อย่างเรียบง่ายแม้กระนั้นเต็มไปด้วยใจความที่ทรงประสิทธิภาพ ผ่านการร้อยเรียงของภาพและก็งานศิลปต่างๆที่ทำให้หนังอัตชีวประวัติประเด็นนี้เต็มไปด้วยอรรถรสความเพลิดเพลินที่คลุกไปกับฉากชีวิตของคนคนหนึ่งที่เต็มไปด้วยรสล้นหลามที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
เขาได้ร่วมเขียนบทกับ “เดวิด หนค” ที่เคยร่วมงานกันมาแล้วบ่อยมาก ดูหนัง ออนไลน์ Mrs. Chatterjee vs. Norway (2023) เต็มเรื่อง โดยพวกเขาทั้งสองใช้เวลาปลุกปั้นเขียนบทหนังหัวข้อนี้นานร่วมปี โดยได้แรงดลใจมาจากหนังสารคดีเรื่องสั้น The Man Without a Mask ที่พวกเขาเคยสร้างไว้ในปี 2016 รวมทั้งเอามาขยายเผยเรื่องเล่าให้ยาวยิ่งขึ้น ผ่านมุมมองชีวิตของ ค้างสซานโดร ตัวจริง ที่ปฏิบัติภารกิจเป็นที่ปรึกษาด้วย โชคดีที่ชีวิตของติดอยู่สซานโดรออกจะเต็มไปด้วยสีสันอันบาดตาบนสังเวียนอยู่แล้ว แม้กระนั้นหนังค่อนข้างจะเปลี่ยนทิศทางมาย้ำชีวิตของติดอยู่สซานโดรในอีกมุมมอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมุมความเกี่ยวเนื่องระหว่างเขากับแม่
ที่ทั้งสองต่างเลี้ยงกันมาผู้เดียว ทำให้ขั้นตอนการเล่าของหนังจะเน้นย้ำที่เรื่องนี้มากยิ่งกว่าเรื่องราวบนสังเวียน และก็นับว่าเป็นส่วนประกอบที่ทำให้หนังทรงประสิทธิภาพได้อย่างดีเยี่ยมเหมือนกัน แต่มันก็อาจจะเป็นผลให้ Cassandro มิได้หวือหวาอะไรเท่าไร เพราะว่าการเล่าเรื่องที่ค่อนข้างจะเรียบง่ายแล้วก็ไปเรื่อยโดยที่มิได้มีอะไรที่สะดุดตาตื่นเต้นมากเท่าไรนัก เดินเรื่องราวไปตามสูตรเดิมของหนังอัตชีวประวัติหวังรางวัลที่พวกเราคงจะเคยได้เห็นเคยมองกันมาก่อน แม้กระนั้นอย่างต่ำๆใจความของหนังประเด็นนี้ก็เต็มไปด้วยน้ำหนักที่แข็งแรงดีตลอดทั้งเรื่อง
รีวิวหนัง “No One Will Save You”
ถ้าเกิดคนใดที่ชอบใจหนังแนวตื่นเต้นคละเคล้าไซไฟแบบคาดคะเนอะไรมิได้ คงจะจำเป็นต้องเหลียวหันมามองประเด็นนี้ “No One Will Save You” ที่จะมาปฏิบัติภารกิจกระตุกขวัญรวมทั้งบีบบังคับปลุกอารมณ์ให้กับทุกคนเจริญตลอด 90 นาทีของหนังหัวข้อนี้ ที่รับประกันว่าบางทีอาจเดาแล้วก็คิดอะไรล่วงหน้ากับหนังหัวข้อนี้ไปก่อน ด้วยเหตุว่ามันบางครั้งอาจจะไม่ใช่อย่างที่คุณคิดไว้No One Will Save You เล่าราวของ ไบรน์ อดัมส์ หญิงสาวที่อยู่อาศัยอยู่ในบ้านที่คุณเคยชินมาตั้งแต่เด็กๆอย่างสันโดษ แม้กระนั้นเหตุการณ์ของคุณจำเป็นต้องเปลี่ยนไปเพียงแต่ชั่วช้าข้ามคืน เมื่อจำเป็นต้องประจันหน้ากับการบุกรุกบ้านของแขกที่ไม่อาจจะกำหนดได้แจ้งชัดว่ามันเป็นตัวอะไร ทราบแค่เพียงมันตัวแปลกแปลก รวมทั้งไม่บางทีอาจทราบถึงเป้าหมายการมาของมัน
นี่เป็นผลงานปัจจุบันของ “ไบรอัน ดัฟฟิลด์” นักสร้างภาพยนตร์ดาวรุ่งที่น่าจับตาดูอีกคนภายในยุคนี้ โดยนี่นับได้ว่าเป็นผลงานดูแลหนังยาวเรื่องที่ 2 ในอาชีพของเขา ภายหลังที่เคยเดบิวต์จากภาพยนตร์ตลกสยองขวัญ Spontaneous มาเมื่อตอนก่อนวัววิด-19 โดยคราวนี้เขายังคงรับหน้าที่ควบคุมรวมทั้งเขียนบทหนังเองอีกเหมือนปกติไบรอัน ดัฟฟิลด์ เคยเป็นคนเขียนบทหนังมาก่อน เขาเคยแต่งโครงเรื่องให้กับหนังดังๆอย่าง The Babysitter, Divergent: Insurgent แล้วก็ปัจจุบันกับ Love and Monsters ที่มองจากประสบการณ์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา เขาออกจะเก่งกับงานด้านการเขียนหนังสยองขวัญ-ตื่นเต้นเป็นทุนเดิมอยู่ไม่น้อย แม้กระนั้นคราวนี้กลับมาในแนวสยองขวัญเหมือนเคย แม้กระนั้นเพิ่มอีกด้วยความเป็นไซไฟลี้ลับ ซึ่งดูเหมือนจะยังเข้ามือเขาได้อย่างดีเยี่ยม
การเล่าเรื่องของ No One Will Save You จัดว่าวับไวพอดี เปิดเรื่องมาก็เกือบจะไม่ต้องเสียเวล่ำเวลาปูเรื่องอะไรทั้งหมด เริ่มมายังไม่ถึงสิบนาทีก็(กระตุกขวัญ)เข้าใจเลย กลิ่นของหนังก็บางครั้งอาจจะคล้ายกับเอาชีวิตรอดท่ามกลางเหตุการณ์ที่ไม่รู้จักอิโหน่อิเหน่ แบบ A Quiet Place หรือ Nope ที่พาผู้ชมติดตามชีวิตของผู้แสดงหลักไปเรื่อยเก็บข้อมูลและก็เนื้อหาแบบรู้ทันกัน ถือได้ว่าเป็นกิมไม่กสำหรับในการเล่าที่เชื้อเชิญผู้ชมติดตามได้อย่างดีเยี่ยม
No One Will Save You แทบไม่เสียเวล่ำเวลาปลดปล่อยให้เยิ่นเย้ออะไร imi1688 ก็แล้วแต่การเล่าเรื่องสไตล์ฉับๆฉับพลันกับอารมณ์ผู้แสดงก็นับว่าทำออกมาเจริญ การผลิตบรรยากาศในหนังก็ถือว่าทำออกมาก้าวหน้าด้วยเหมือนกัน เป็นสิ่งที่เชื้อเชิญผู้ชมเฝ้าติดตามมองเหตุการณ์ต่อๆไปได้อย่างแบบเกาะหน้าจอ ถึงแม้มันจะมีกลิ่นความเป็นสูตรสำเร็จผสมปนเปอยู่ แม้กระนั้นสูตรนี้ก็ค่อนข้างจะเวิร์กกับความหรรษาที่หนังใส่เข้ามา
สิ่งหนึ่งที่ถูกใจในหนัง No One Will Save You ก็คงเป็นการใส่เต็มแล้วก็จัดเต็มของหนัง หนังไม่มีการออมชอมลดเลี้ยวใดๆก็ตามเพราะว่าราวกับพวกเขาทำการบ้านมาดีว่าผู้ชมต้องการมองเห็นอะไรแล้วก็มองอะไร สิ่งที่คุณต้องการมองเห็นก็คงจะได้มองเห็น เวลาที่ส่วนประกอบศิลปแล้วก็ส่วนประกอบภาพของหนังก็สร้างบรรยากาศออกมาชักชวนสยดสยองดี แม้ว่าจะจำเป็นต้องจ้องดูหน้าจออยู่บ้างบางส่วน เนื่องจากว่าบางฉากมันก็มืดไปสักนิดสักหน่อย แต่ว่ายังมีเพลงประกอบของ “โจเซฟ ทราขว้างเนเซ” มาช่วยบิวท์อารมณ์ได้ออกจะดีตลอดทั้งเรื่อง
รีวิวหนัง “อมตะจำพวกสยดสยอง Immortal Species”
ถึงคิวหนังเผชิญภัยตื่นเต้นที่นับว่าเป็นโปรเจกต์ที่ได้ยินมาครู่หนึ่งใหญ่ๆอย่าง “อมตะจำพวกสยดสยอง Immortal Species” ที่มีขั้นตอนข้างหลังการถ่ายทำรวมทั้งทำซีจีอยู่นานเป็นปี แล้วปัจจุบันนี้มันก็ได้กาลที่จะออกมาให้ผู้ชมได้เชยชมกันแล้ว กับการจับเอาตำนานตะไข้ยักษ์ดึกดำบรรพ์ออกมาก่อกวนอีกรอบ เพียงแต่ว่า..ส่วนประกอบอะไรทำนองนี้ มันจะยังเวิร์กในปี 2566 อยู่หรือไม่?
อมตะชนิดสยดสยอง Immortal Species เป็นสถานะการณ์ที่นิสิตกรุ๊ปหนึ่งได้เริ่มเดินทางไปตามหา ต้นชาละวัน พืชหายากประเภทหนึ่งที่เจอหลบซ่อนอยู่บนเกาะน้ำกึ่งกลางป่าลึก แต่ว่าพวกเขาจำเป็นต้องจำต้องประจันหน้ากับความข้องเกี่ยวในสมัยก่อนของหมู่คณะแต่ละคน ท่ามกลางความลี้ลับสลับซับซ้อนที่เบาๆทวีตัวขึ้นทุกเมื่อ รวมทั้งยิ่งร้ายไปกว่านั้นเมื่อทุกคนพบว่า ตอนนี้พวกตนจำเป็นต้องตกอยู่ในอันตรายจากการเป็นเหยื่ออันอร่อยของไอ้เข้ดึกดำบรรพ์
นี่เป็นผลงานปัจจุบันของ “บอย-เจตนิพัทธ์ สาราชสีห์” ดูหนัง ออนไลน์ Mrs. Chatterjee vs. Norway (2023) เต็มเรื่อง ที่เคยสร้างชื่อมาจาก ๔๐๐ นักสู้ ขุนรองปลัดยก ที่ถ้าว่าผู้ใดกันแน่เคยศึกษางานชิ้นก่อนของเขา ก็คงจะจะต้องเตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้เนิ่นๆเพราะว่าแน่ๆว่ากลับมาอีกรอบในทีนี้ มาตรฐานงานสร้างรวมทั้งแนวทางวิสัยทัศน์ที่มีออกมาในหนังประเด็นนี้ก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยมีวิวัฒนาการมากขึ้นเรื่อยๆสักเท่าไหร่ ดีไม่ดีอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีแนวทางที่ถอยหลังกลับลงลำคลองด้วย เพราะเหตุว่าแต่ละจุดของหนังออกจะไม่มีเหตุผลสักเท่าไหร่
บอกตามจริงว่า อมตะจำพวกสยดสยอง Immortal Species เป็นหนังที่มีสูตรสำเร็จความเป็นหนังเปรตแล้วก็เป็นหนังแนวเอาชีวิตรอดแบบเชยๆที่เต็มไปด้วยส่วนประกอบที่แสนจะเชยไปแทบจะทุกส่วนประกอบ ที่ทำให้ผู้ชมจำเป็นต้องเผลอคิดไปว่า นี่พวกเรากำลังนั่งอยู่ในโรงภาพยนต์ในปี 2545 หรือย้อนกลับไปสัก 20 ปีที่ผ่านมาอยู่หรือไม่ เนื่องจากว่าแก่นของหนังที่ถ่ายทอดออกมาไม่มีความแตกต่างกับหนังเผชิญภัยในสมัยนั้น ทั้งยังจังหวะแล้วก็ท่าทางที่เชิญกุมขมับ
อมตะชนิดสยดสยอง Immortal Species มีบทหนังที่อยู่ในเซฟโซน ถึงจะมีวัตถุดิบค่อนข้างจะใช้ได้อยู่ กลับถูกเอามาละเลงใส่แบบสะเปะสะปะไปหมด ซ้ำยังมีจังหวะการเล่าเรื่องที่เชิญแปลก เต็มไปด้วยรอยต่อที่สะดุดล้มหน้าขมำได้อยู่เสมอเวลา บทจะเสี่ยงภัยก็ใส่มาดื้อๆแม้กระนั้นจะตัดฉับไปโหมดซึ้งผสมโรแมนซ์ก็หยอดเข้ามาแบบไร้อารมณ์ โดยยิ่งไปกว่านั้นความเพียรพยายามยัดใส่โมเมนต์ขายจิ้นและก็ความวายเข้ามาในหนังหัวข้อนี้ เปลี่ยนเป็นส่วนประกอบที่มองขำขันที่สุดในหนังประเด็นนี้แล้ว เนื่องจากความที่ใส่เข้ามาแบบผิดที่ถูกเวลาซักเท่าไหร่
